อิคิไก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปรัชญาญีปุ่นที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน คำ ๆ นี้หากไปถามชาวญีปุ่นบางคนก็ยากที่จะอธิบาย แต่หากจะให้กล่าวว่าปรัชญานี้หรือว่าคำ ๆ นี้ ฝังรากลึกอยู่ในสายเลือดของคนญีปุ่นเกือบทั้งประเทศไปแล้วก็ไม่ผิดนักครับ วันนี้ผมจึงอยากนำปรัชญาอิคิไกมาเรียบเรียงผ่านหนังที่มีชื่อว่า Perfect Days ซึ่งเป็นหนังที่สะท้อนการมีชีวิต การใช้ชีวิต การดำรงตน ความสำเร็จ ผ่านปรัชญา Ikigai ได้ดีเลยทีเดียวครับ
ต่อไปผมจึงอยากจะมำแนะนำ ทั้ง 2 อย่างก่อนนะครับ เริ่มต้นกันด้วย “อิคิไก”
1.อิคิไก คืออะไร?
อิคิไก มาจากคำสองคำที่ผสมกัน คือคำว่า อิคิ (Iki – 生き) ซึ่งแปลว่า “ชีวิต” และคำว่า ไก (Kai – 甲斐) ซึ่งมีความหมายว่า “คุณค่า”
หากนำคำสองคำนี้มารวมกัน “คุณค่าของชีวิต” “เหตุผลของการมีชีวิตอยู่”
อิคิไก เข้ามามีบทบาทที่ทำให้คนเรา เข้าใจและรู้ตัวตน รู้ว่าเราเกิดมาทำไม เราต้องการสิ่งใด เราใช้ชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นล้วนมาเติมเต็มคุณค่าให้แก่ตัวของเรา อิคิไกมีหลักง่ายๆ และสามารถนำไปปฎิบัติได้ในทุกๆ วัน เพื่อให้เป็นวันที่มีความสุขและเต็มไปด้วยความหมาย อิคิไกนั้นเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ คำว่าอิคิไกจะเป็นอะไรก็ได้ครับ ที่ทำให้เรามีความสุข ที่คือนิยามของมันหากกล่าวแบบนี้ก็ไม่ผิดนัก
ทุกคนเคยไม่อยากลุกออกจากเตียงในยามเช้ากันบ้างไหมครับ ผมเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น อิคิไก ก็สามารถใช้สื่อถึง เหตุผลที่ตื่นในตอนเช้า เรียกว่าเป็นแรงจูงใจให้คุณลุกออกจากเตียงขึ้นมาดำเนินชีวิตต่อไป มันคือสิ่งที่ให้ชีวิตของคุณมีรสชาติ มีความท้าทาย มีความกระตือรือร้นในทุก ๆ วันไปเรื่อย ๆ ทุก ๆ วัน
เสาหลักทั้ง 5 ของอิคิไก

ในหนังสือเกี่ยวกับอิคิไกที่มีชื่อว่า THE LITTLE BOOK IKIGAI ที่เขียนโดย Ken Mogi (เคน โมงิ) ซึ่งเป็น นักประสาทวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น
ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำแนวคิดอิคิไกมาวิเคราะห์และถ่ายทอดออกมาให้เราทุกคนได้เข้าใจ และทำความรู้จักอิคิไกผ่านเรื่องราวหลากหลายในประวัติศาสตร์อันยาวนานของญี่ปุ่น เรื่อยมาจนถึงวัฒนธรรมร่วมสมัย พร้อมกับกรณีศึกษาในวิถีชีวิต งานฝีมือ และไอเดียธุรกิจที่น่าสนใจ เพื่อเราจะได้ตื่นขึ้นทุกเช้าพร้อมกับความหวัง และแรงพลัง ในการขับเคลื่อนชีวิตและสังคมไปในทางที่เราใฝ่ฝัน
ได้มีการนำแนวคิดและสรุปออกมาได้เป็น 5 เสาหลัก ที่ประกอบกันจนการเป็น อิคิไก
อันได้แก่
- การเริ่มต้นสิ่งเล็ก ๆ
- การปลดปล่อยตัวเอง
- ความสอดคล้องที่ยั่งยืน
- ความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ
- อยู่ตรงนี้ ตอนนี้
โดยแต่ละเสาหลัก ไม่จำเป็นต้องไล่จาก 1 ไป 5 และไม่จำเป็นต้องมีครบทั้ง 5 ถึงจะเรียกว่าอิคิไกนะครับ
ทีนี้ เรามาเจาะลึกกันทีละเสาหลักกันครับ โดยเริ่มจากเสาหลักที่ 1
เสาหลักที่ 1 : การเริ่มต้นเล็กๆ
ทุกอย่างบนโลกใบนี้นั้นล้วนต้องใช้เวลาครับ ต้องอาศัยการเริ่มต้น ผลลัพธ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไรเราไม่มีวันรู้ล่วงหน้าครับ แต่คุณรู้ไหมครับว่าเรารู้อะไร เรารู้ในวันนี้ ดังนั้นการเริ่มต้นลองอะไรใหม่ ๆ หรือการเริ่มต้นทำในสิ่งที่อยากทำ เป็นก้าวแรกสู่การพัฒนา เป็นการแรกสู่การค้นหาอิคิไกครับ ยกตัวอย่างเช่น
หากคุณอยากพัฒนาสุขภาพ ลองเริ่มต้นด้วยการเดินวันละ 10 นาที หรือลดน้ำตาลในเครื่องดื่มที่คุณดื่มประจำ แม้จะดูเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่การสะสมพฤติกรรมที่ดีทีละเล็กละน้อยจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตครับ
ดังนั้นการเริ่มต้น เล็ก ๆ และลงมือปฏิบัติไปทีละขั้นตอนเพื่อมุ่งไปสู่ความสมบูรณ์แบบ นี่คือเสาหลักที่ 1 ครับ
เสาหลักที่ 2 : การปลดปล่อยตัวเอง
หลักอิคิไกของญี่ปุ่นสอนให้เราค้นพบความหมายและเป้าหมายในชีวิต โดยหนึ่งในแนวทางสำคัญคือการปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการทางความคิดและความกดดันที่ไม่จำเป็น เพื่อให้เราสามารถกลับมาเชื่อมโยงกับสิ่งที่เรารักและสิ่งที่เราทำได้ดี
ในบริบทของอิคิไก การปลดปล่อยตัวเองหมายถึงการละทิ้งความกลัวหรือความคาดหวังที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายในชีวิต ลองถามตัวเองว่า
สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้ สร้างความสุขหรือประโยชน์ให้กับตัวเราหรือไม่? เราทำสิ่งนี้เพราะตัวเองต้องการ หรือเพราะต้องการทำให้คนอื่นพอใจ?
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีความฝันอยากเป็นศิลปิน แต่คุณถูกกดดันให้เลือกอาชีพที่มั่นคง การปลดปล่อยตัวเองอาจหมายถึงการเริ่มให้เวลากับงานศิลปะเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกวัน เพื่อให้คุณได้เชื่อมโยงกับสิ่งที่คุณรัก ซึ่งสอดคล้องกับ เสาหลักที่ 1 ครับ
เสาหลักที่ 3 : ความสอดคล้องที่ยั่งยืน
ในหลักอิคิไก ความสมดุลและความสอดคล้องระหว่างสิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราถนัด สิ่งที่โลกต้องการ และสิ่งที่เลี้ยงดูชีวิตเราได้ ถือเป็นหัวใจสำคัญ การค้นหาและรักษาความสอดคล้องนี้ไม่ใช่เพียงการทำงานให้มีความสุขในวันนี้ แต่เป็นการสร้างเส้นทางที่ยั่งยืนสำหรับชีวิตในระยะยาว
ความสอดคล้องที่ยั่งยืนคือการรู้จักจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่สำคัญจริง ๆ เราอาจหลงทางในความเร่งรีบของโลกยุคใหม่ พยายามทำทุกอย่างจนลืมถามตัวเองว่า “สิ่งที่เราทำอยู่นั้นสอดคล้องกับเป้าหมายและคุณค่าของเราหรือไม่?”
ความยั่งยืนไม่ได้เกิดขึ้นจากการทำทุกอย่างในครั้งเดียว มันต้องอาศัยการปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณพบความสมดุลในแต่ละช่วงของชีวิต คุณจะรู้สึกมั่นคงและสงบสุข แม้ในวันที่เผชิญกับความท้าทาย
ความสอดคล้องที่ยั่งยืนไม่ใช่แค่การประสบความสำเร็จ แต่คือการเดินไปข้างหน้าโดยไม่สูญเสียตัวตนและคุณค่าที่คุณยึดถือ จงเดินไปบนเส้นทางของคุณด้วยความมั่นใจ และจงจำไว้ว่า ความยั่งยืนในชีวิตเริ่มต้นจากการฟังหัวใจตัวเอง และสร้างความสมดุลในสิ่งที่คุณทำครับ
เสาหลักที่ 4 : ความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ
ในชีวิตที่วุ่นวาย เรามักมองหาความสุขจากเป้าหมายใหญ่ ๆ เช่น การประสบความสำเร็จในงาน การมีทรัพย์สิน หรือการได้รับการยอมรับจากสังคม แต่ในความเป็นจริง หลักอิคิไกสอนเราว่าความสุขที่แท้จริงมักซ่อนอยู่ในสิ่งเล็ก ๆ รอบตัวที่เราอาจมองข้ามไป
ความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ คือการเรียนรู้ที่จะชื่นชมรายละเอียดเล็กน้อยในชีวิต เช่น กลิ่นหอมของกาแฟยามเช้า แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องผ่านหน้าต่าง เสียงหัวเราะของคนที่เรารัก หรือแม้แต่ความรู้สึกอบอุ่นจากการทำสิ่งที่เรารัก แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่สิ่งเหล่านี้สามารถเติมเต็มหัวใจเราได้อย่างลึกซึ้ง
ตามหลักอิคิไก การใส่ใจกับปัจจุบันและการชื่นชมสิ่งเล็ก ๆ ช่วยให้เรามีสติและมองเห็นความงดงามในทุกวัน ลองฝึกตัวเองให้หยุดและชื่นชมสิ่งรอบตัว เช่น การสังเกตดอกไม้ริมทาง การยิ้มให้กับคนแปลกหน้า หรือการขอบคุณสำหรับสิ่งที่มีอยู่ในชีวิต
การหาความสุขในสิ่งเล็ก ๆ ยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสงบในจิตใจ มันทำให้เราตระหนักว่าความสุขไม่จำเป็นต้องมาจากความยิ่งใหญ่หรือความสำเร็จที่คนอื่นมองเห็น แต่คือการได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในแต่ละวัน
จงให้เวลาตัวเองชื่นชมสิ่งเล็ก ๆ ในทุกวัน เพราะสิ่งเหล่านี้คือชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่ประกอบกันเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ในชีวิตของเราตามหลักอิคิไกครับ
เสาหลักที่ 5 : การอยู่ตรงนี้ตอนนี้
ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและความกังวลเกี่ยวกับอนาคต หลักอิคิไกสอนให้เรารู้จักการอยู่กับปัจจุบันหรือการ “อยู่ตรงนี้ ตอนนี้” การมีสติและการสนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ช่วยให้เรารู้สึกสงบและเชื่อมโยงกับตัวเองมากขึ้น
การอยู่ตรงนี้ ตอนนี้ ไม่ใช่แค่การปล่อยใจให้หลุดลอยไปตามสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หมายถึงการให้ความสำคัญกับการทำสิ่งต่าง ๆ ในตอนนี้อย่างมีสติ เช่น การทำงานที่คุณรัก การสนทนากับคนที่คุณรัก หรือแม้แต่การหายใจลึก ๆ และรู้สึกถึงการมีชีวิตอยู่
เมื่อเรามักจะกังวลถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต หรือหวนกลับไปคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เราจะเสียโอกาสในการสัมผัสกับความสุขในปัจจุบัน การฝึกให้ตัวเองอยู่กับ “ตอนนี้” ช่วยให้เราสามารถสัมผัสและเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวได้มากขึ้น
การฝึกการอยู่ตรงนี้ ตอนนี้ คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับชีวิตและทำให้เราเชื่อมโยงกับความสุขที่แท้จริงในทุกช่วงเวลานั่นเองครับ
นี่คือทั้งหมดของหลัก อิคิไก ครับ ทีนี้ถึงคราวที่เราต้องมาทำความรู้จักหนังที่มีชื่อว่า Perfect Days แล้วล่ะครับ
Perfect Days สุนทรียศาสตร์ของพนักงานล้างห้องน้ำ
Perfect Days (2023) เป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่กำกับโดย Wim Wenders ผู้กำกับชื่อดังชาวเยอรมันที่มีผลงานเด่นในวงการภาพยนตร์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการสะท้อนภาพชีวิตและการสำรวจความเป็นมนุษย์ Perfect Days เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับคำชมอย่างมาก และได้รับรางวัลในหลายเวที รวมถึง รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จากงาน เทศกาลภาพยนตร์คานส์ ปี 2023 ซึ่งเป็นการยืนยันถึงคุณภาพและความลึกซึ้งของหนังเรื่องนี้
เรื่องราวใน Perfect Days เป็นการติดตามชีวิตของ ตัวละครหลัก Hirayama ผู้ทำงานในห้องน้ำสาธารณะในเมืองโตเกียว THE TOKYO TOILET เขาดูเหมือนจะใช้ชีวิตอย่างธรรมดา แต่ความธรรมดานั้นกลับเต็มไปด้วยความหมายและความสุขที่สะท้อนในรายละเอียดเล็ก ๆ ของชีวิตประจำวัน การทำงานในสถานที่นี้ทำให้เขาได้เห็นเรื่องราวและพบปะกับผู้คนมากมาย แม้จะไม่ได้พูดคุยหรือเกี่ยวข้องกันมาก แต่การที่เขาใส่ใจในการทำสิ่งที่ดูเหมือนไม่สำคัญให้ดีที่สุด กลับทำให้เขาพบความสงบและความพอใจในชีวิต
หนังนั้นเล่าเรื่องแบบเรียบง่ายและไร้ซึ่งแก่นสาร แต่การใช้ชีวิตในแต่ละวันอันธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษแต่อย่างใดนั้นกลับสอนใจเราให้ลองหยุดชื่นชมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานั้นและละทิ้งทุกสิ่งไว้ก่อน
หนังเรื่องนี้สำรวจถึงความหมายของชีวิตที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสำเร็จใหญ่โตอย่างที่โลกทุกวันนี้ยึดติด แต่เป็นการทำสิ่งเล็ก ๆ ในทุกวันด้วยความรักและความหลงใหล ซึ่งเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับหลักอิคิไกที่เน้นการใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและเต็มไปด้วยความสุขจากสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน
การเดินทางของ ตัวละครหลักค้นหาความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ รอบตัวซึ่งแสดงให้เห็นถึงการยอมรับตัวเองและการอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่ ผ่านการทำสิ่งที่รักและให้ความสำคัญกับสิ่งที่ทำ แม้ในชีวิตที่ดูธรรมดาและไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไรเลย แต่ทุกวินาทีในชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความหมายหากเรารู้จักมองหาครับ
Perfect Days กับเสาหลักทั้ง 5 ของอิคิไก
การเชื่อมหลักอิคิไกกับหนัง Perfect Days

เสาหลักที่ 1: การเริ่มต้นเล็ก ๆ
ใน Perfect Days Hirayama เริ่มต้นชีวิตของเขาด้วยการทำงานที่ไม่หวือหวา แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจในการดูแลห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นในสิ่งเล็ก ๆ ที่อาจจะดูเหมือนไม่มีความสำคัญ แต่จริง ๆ แล้วมันคือการหาความหมายในสิ่งที่ทำ ทุกวันเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง แม้จะเป็นเพียงการทำสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดในปัจจุบัน

เสาหลักที่ 2: การปลดปล่อยตัวเอง
Hirayama เห็นถึงความสำคัญของการปลดปล่อยตัวเองจากความคาดหวังหรือการตัดสินของสังคม เขาไม่ได้ยึดติดกับการต้องทำอะไรให้ยิ่งใหญ่ เขาทำสิ่งที่เขารักและทำมันได้ดีในแบบของตัวเอง สิ่งนี้สะท้อนถึงการยอมรับตัวตนและการอยู่กับปัจจุบันอย่างสงบ ซึ่งเป็นการปลดปล่อยตัวเองจากการทำตามค่านิยมที่ไม่ตรงกับตัวเอง

เสาหลักที่ 3: ความหลงใหลในสิ่งที่ทำ
ในชีวิตของ Hirayama นั้น เขาอาจจะไม่ได้ทำงานที่ดูมีเกียรติหรือได้รับการยอมรับจากสังคมมากนัก แต่การทำสิ่งที่เขาทำด้วยความรักและความใส่ใจสะท้อนให้เห็นว่า ความหลงใหลในสิ่งที่ทำ คือสิ่งที่จะเติมเต็มหัวใจและทำให้ชีวิตมีความหมาย แม้ว่าจะเป็นงานที่ดูเหมือนจะไม่มีความสำคัญสำหรับคนอื่น แต่เขามองมันเป็นการสร้างความสุขให้กับผู้คนรอบข้าง

เสาหลักที่ 4: ความสุขในสิ่งเล็ก ๆ
Hirayama ค้นพบความสุขในสิ่งเล็ก ๆ เช่น การดูแลห้องน้ำให้สะอาด การเห็นผู้คนใช้สถานที่นั้นอย่างมีความสุข หรือแม้แต่การเดินเล่นในเมืองที่เขาคุ้นเคย ถ่ายภาพต้นไม้ ปลูกต้นไม้ ความสุขที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องมาจากสิ่งใหญ่โต แต่คือการมองเห็นและชื่นชมสิ่งเล็ก ๆ รอบตัวในทุกวัน การฝึกสังเกตและรับรู้สิ่งที่อยู่ในปัจจุบันทำให้เราสามารถพบความสุขได้ง่ายขึ้นในทุก ๆ ช่วงเวลา

เสาหลักที่ 5: อยู่ตรงนี้ ตอนนี้
Perfect Days ถ่ายทอดความหมายของการอยู่กับปัจจุบันอย่างลึกซึ้ง Hirayama ไม่วิ่งไล่ตามอนาคตหรือหวนกลับไปในอดีต เขาอยู่ในปัจจุบันอย่างเต็มที่ มองเห็นคุณค่าของสิ่งที่ทำและสัมผัสความสุขจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ โดยไม่คิดมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นหรือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว

ในท้ายที่สุด Perfect Days สะท้อนถึงการใช้ชีวิตอย่างมีสติ ค้นหาความหมายจากสิ่งที่ทำ แม้ในเรื่องราวที่ดูเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความรักในสิ่งที่ทำ และความสงบจากการอยู่กับตัวเอง ซึ่งเป็นการสะท้อนหลักอิคิไกที่ทำให้เราเข้าใจว่า ความสุขและความหมายในชีวิตนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากการอยู่ในปัจจุบันและทำสิ่งที่เรารักและทำได้ดีนั่นเอง
ถ้าใครอยากดูหนังเรื่องนี้ เตรียมพบกับภาพยนตร์เรื่อง Perfect Days
ทาง Netflix วันที่ 27 ม.ค. นี้ครับ
ตัวอย่างหนัง